ทำความรู้จัก คอยล์จุดระเบิด และทริคเล็ก ๆ ในการดูแลการใช้งาน
ทำความรู้จัก คอยล์จุดระเบิด และทริคเล็ก ๆ ในการดูแลการใช้งาน
คอยล์หัวเทียนหรือ คอยล์จุดระเบิด จุดเริ่มต้นในการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปที่ต้องมีการจุดระเบิดอยู่ตลอดเวลา จะว่าไปความสำคัญในอุปกรณ์ชิ้นนี้เทียบเท่าได้ไม่ต่างกับ เสื้อสูบหรือปั้มติ๊กที่หากมีปัญหาจะส่งผลโดยตรงทำทีจนทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด ไปจนถึงการทำงานของตัวเครื่องยนต์ สตาร์ทไม่ติด เครื่องเดินไม่เรียบ ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอุปสรรคในการใช้งานของผู้ขับขี่ที่ไม่มีใครอยากเผชิญ
วันนี้ BEZ ได้รวบรวมรายละเอียดมาให้คุณได้ทำความเข้าใจเพิ่มเติม เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่ “อาจจะ” เกิดขึ้นจากอุปกรณ์ชิ้นนี้ ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย
คอยล์จุดระเบิด ทำหน้าที่อะไร ?
5 อาการบอกถึง ปัญหาของคอยล์จุดระเบิด
คอยล์จุดระเบิดเสียจนทำให้ไม่มีไฟหรือการทำงานผิดปกติ จะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “เบาดับ” ขณะที่รอบเครื่องต่ำ ตอนเหยียบคันเร่งก็เร่งไม่ขึ้น จนถึงมีอาการ เครื่องยนต์ดับขณะออกตัว หรือเรียกง่าย ๆ ว่า อาการเร่งเครื่องไม่ขึ้น
มีไฟเตือนรูปเครื่องหรือไฟเอนจิ้นโชว์ เป็นไปได้ว่าที่ส่วนคอยล์จุดระเบิดอาจมีปัญหา
รอบเครื่องยนต์มีอาการสะดุด สั่นขณะเหยียบเร่ง รอบเครื่องสวิงขึ้นลงไปมา หรือรอบตก
ความร้อนที่ผิดปกติที่เป็นไปได้ว่า จะมีบางคอยล์เท่านั้นที่เสียแล้วจะเกิดความร้อนสูงกว่าคอยล์ตัวอื่น ๆ ให้ลองสัมผัสที่ตัวปลั๊กคอยล์ด้านบน และถ้าคอยล์ตัวไหนเสียจะร้อนผิดปกติกว่าคอยล์ตัวอื่น ๆ
คอยล์ไหม้หรือฟิวส์ขาด หากคอยล์จุดระเบิดมีปัญหาแล้วผู้ใช้รถยังฝืนใช้รถต่อไปในขณะที่คอยล์เสีย อาจทำให้คอยล์เกิดการไหม้หรือฟิวส์ขาดได้ ส่งผลต่อเนื่องให้ไม่มีกระแสไฟฟ้าส่งไปให้ระบบการทำงานของเครื่องยนต์
สาเหตุที่ทำให้ คอยล์จุดระเบิดเสีย มีอะไรบ้าง ?
หลังจากที่ได้เรียนรู้อาหารของคอยล์จุดระเบิดเสื่อมและเสียมาบ้างแล้ว และสาเหตุที่ทำให้คอยล์จุดระเบิดของรถคุณเสียไวก่อนเวลาก็คือ..
เรื่องความชื้น
ความชื้นกับระบบไฟเหมือนเป็นของแสลง ความชื้นจากการขับขี่หรือการล้างห้องเครื่อง ย่อมส่งผลให้เกิดความชื้นสะสมภายในคอยล์จุดระเบิดได้ ส่งผลให้คอยล์เสียหรือเสื่อมสภาพได้
การล้างห้องเครื่องเหมือนเป็นกรรมวิธีที่เสี่ยงที่สุดที่จะทำให้คอยล์จุดระเบิดเสีย การใ้ช้ น้ำ โฟม ดรายไอซ์ ฯลฯ ล้วนสร้างความชื้นตกค้างได้แม้จะมั่นใจแค่ไหนว่าเช็ดจนแห้งเรียบร้อย วิธีการที่ดีที่สุดคือ เปลี่ยนจากการล้างด้วยน้ำเป็นการเช็ดทำความสะอาดภายในห้องเครื่องแทน เนื่องจากการใช้พวก น้ำ โฟม ดรายไอซ์ หากไม่เช็ด ไม่เป่าลมจนแห้งสนิท จะทำให้คอยล์เสียหรือเสื่อมสภาพได้
ได้รับแรงกระแทกมากเกินไป
หากรถยนต์ของคุณได้รับแรงกระแทกมากจนเกินไป โดยเฉพาะการได้รับแรงกระแทกจากการชน หรืออุบัติเหตุต่าง ๆ ความรุนแรงเหล่านั้นก็อาจจะทำให้คอยล์จุดระเบิดได้รับความเสียหายตามไปด้วย
ความร้อนสูงเกินไป
การใช้เชื้อเพลิงทางเลือกอย่าง LPG/NGV จะทำให้อุณหภูมิในห้องเครื่องสูงกว่าปกติมาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ แน่นอนว่าชิ้นส่วนอย่างคอยล์จุดระเบิดก็จะต้องเกิดความร้อนมากขึ้นด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ชิ้นส่วนนี้เสื่อมสภาพหรือเสียก่อนอายุการใช้งาน
การดูแลคอยล์จุดระเบิด ทำได้อย่างไร ?
หากต้องขับรถไกล ๆ ควรจอดพักรถในทุก ๆ 200-300 กิโลเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้คอยล์จุดระเบิดทำงานหนักเกิดไป
อย่าฉีดน้ำล้างห้องเครื่อง เนื่องจากน้ำอาจรั่วเข้าสู่ระบบการทำงานได้
ควรหลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำหรือบริเวณที่มีน้ำท่วมขังสูง
หากเปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงแบบ LPG/NGV ที่มีความร้อนสูงมาก ควรสลับเปลี่ยนมาใช้น้ำมันบ่อย ๆ เพื่อยืดอายุการใช้งานของคอยล์จุดระเบิด
ถนนไม่เรียบ เป็นหลุมเป็นบ่อ อย่าใช้ความเร็วสูง เพราะถ้าหากรถขับเร็วตกหลุมกระแทกแรง ๆ จะมีผลเสียทำต่อคอยล์จุดระเบิดได้